emergency contraception safety

ยาคุมฉุกเฉินความจริงเกี่ยวกับความปลอดภัยและวิธีใช้ที่ถูกต้อง

ไลฟ์สไตล์ สุขภาพ

ยาคุมฉุกเฉินเป็นหนึ่งในทางเลือกที่ถูกนำมาใช้ในกรณีฉุกเฉินเพื่อลดความเสี่ยงของการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ หลายคนอาจเคยได้ยินคำเตือนว่า “ห้ามใช้ยาคุมฉุกเฉินเกินสองครั้งในชีวิต” เนื่องจากอาจส่งผลข้างเคียงและมีความอันตรายสูง คำเตือนนี้เป็นจริงมากน้อยเพียงใด และวิธีใช้ยาคุมฉุกเฉินอย่างปลอดภัยมีอย่างไร บทความนี้จะมอบคำตอบให้กับคุณ

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับยาคุมกำเนิด

ยาคุมกำเนิดเป็นวิธีที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลายในการป้องกันการตั้งครรภ์ โดยการใช้ฮอร์โมนเพื่อยับยั้งกระบวนการปฏิสนธิ ฮอร์โมนที่ใช้มีสองรูปแบบหลัก ได้แก่ ฮอร์โมนเดี่ยว (โปรเจสเตอโรน) และฮอร์โมนรวม (เอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรน) ซึ่งมาในหลายรูปแบบ เช่น ยากิน แผ่นแปะ ห่วงที่ใส่ในช่องคลอด ห่วงอนามัยที่ใส่ในโพรงมดลูก ยาฉีด และยาฝัง

ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับยาคุมกำเนิด

กลไกการทำงานของยาคุมกำเนิด

ยาคุมกำเนิดทำงานโดย

  1. ยับยั้งการตกไข่ เมื่อไม่มีการตกไข่ จะไม่มีโอกาสเกิดการปฏิสนธิ
  2. ทำให้มูกที่ปากมดลูกข้นเหนียว อสุจิไม่สามารถผ่านไปปฏิสนธิกับไข่ได้ง่าย
  3. ทำให้ผนังโพรงมดลูกบางลง การฝังตัวของตัวอ่อนเป็นไปได้ยาก

ยาคุมฉุกเฉินมีทั้งแบบใช้ฮอร์โมนเดี่ยวและฮอร์โมนรวม ซึ่งมีปริมาณฮอร์โมนที่สูงกว่ายาคุมกำเนิดปกติ วัตถุประสงค์หลักคือการใช้ในกรณีฉุกเฉิน เช่น การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่ได้ป้องกัน หรือการคุมกำเนิดล้มเหลว เช่น ถุงยางอนามัยหลุดหรือขาด

กลไกการทำงานของยาคุมกำเนิด

ประเภทของยาคุมกำเนิด

ยาคุมกำเนิดที่ใช้ฮอร์โมนเดี่ยว

  • ยากิน กินวันละ 1 เม็ด ต่อเนื่องทุกวัน หนึ่งแผงมี 28 เม็ด
  • ยาฉีด ฉีดทุก 3 เดือน
  • ยาฝัง ฝังที่แขน คงประสิทธิภาพ 3-5 ปี
  • ห่วงคุมกำเนิด ใส่ในโพรงมดลูก มีระยะเวลาคงประสิทธิภาพ 5 ปี

ยาคุมกำเนิดที่ใช้ฮอร์โมนรวม

  • ยากิน กินวันละ 1 เม็ด ต่อเนื่อง หนึ่งแผงมี 21-24 เม็ด และยาเม็ดแป้งอีก 4-7 เม็ด
  • แผ่นแปะ ใช้แปะทุก 3 สัปดาห์ เว้น 1 สัปดาห์
  • ห่วงใส่ช่องคลอด ใส่ 3 สัปดาห์ เว้น 1 สัปดาห์

ยาคุมกำเนิดยังถูกนำมาใช้เพื่อบรรเทาอาการจากโรคทางนรีเวช เช่น ช่วยลดอาการปวดประจำเดือนและชะลอการเจริญของโรคบางชนิด

ยาคุมฉุกเฉิน ข้อเท็จจริงและความเข้าใจผิด

ยาคุมฉุกเฉินห้ามใช้เกิน 2 ครั้งในชีวิตจริงหรือ

คำเตือนนี้ไม่เป็นความจริง ยาคุมฉุกเฉินไม่ได้เป็นอันตรายหากใช้อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ควรใช้ในกรณีฉุกเฉินเท่านั้น เนื่องจากมีประสิทธิภาพในการป้องกันการตั้งครรภ์ต่ำกว่ายาคุมกำเนิดปกติ และไม่ควรใช้เป็นวิธีการคุมกำเนิดหลัก

ผลข้างเคียงของยาคุมกำเนิด

  • ยาคุมที่ใช้ฮอร์โมนเดี่ยว อาจทำให้มีเลือดออกกะปริบกะปรอย
  • ยาคุมที่ใช้ฮอร์โมนรวม อาจทำให้คลื่นไส้ อาเจียน แต่ช่วยลดปัญหาเลือดออกกะปริบกะปรอยได้

แนวทางการคุมกำเนิดที่แนะนำจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

การเลือกวิธีคุมกำเนิดที่เหมาะสม

การเลือกวิธีคุมกำเนิดควรพิจารณาจาก

  1. ระยะเวลาที่ต้องการคุมกำเนิด เช่น ระยะสั้น 1-2 ปี หรือระยะยาวมากกว่า 3 ปี
  2. พฤติกรรมการใช้ยา หากมักลืมกินยา ควรเลือกวิธีที่ไม่ต้องกินยาทุกวัน
  3. ราคา ควรเลือกวิธีที่เหมาะสมกับงบประมาณ
  4. ผลข้างเคียง ควรพิจารณาถึงผลข้างเคียงของแต่ละวิธีและเลือกวิธีที่ส่งผลต่อสุขภาพน้อยที่สุด

ตัวเลือกการคุมกำเนิดที่หลากหลาย

  1. ยาคุมกำเนิดแบบยากิน เหมาะสำหรับผู้ที่มีวินัยในการกินยา เหมาะสำหรับการคุมกำเนิดระยะสั้น
  2. ยาคุมกำเนิดแบบยาฉีด ราคาถูก แต่หลังหยุดฉีดอาจต้องรอ 6 เดือนก่อนจะตั้งครรภ์ได้
  3. ยาคุมกำเนิดแบบห่วงใส่ในโพรงมดลูก เหมาะสำหรับการคุมกำเนิดระยะยาว มีทั้งแบบห่วงที่มีตัวยาฮอร์โมนและห่วงทองแดง
  4. ยาคุมกำเนิดแบบแผ่นแปะและห่วงใส่ในช่องคลอด เหมาะสำหรับผู้ที่มักลืมกินยา
  5. ยาคุมกำเนิดแบบฝัง เหมาะสำหรับการคุมกำเนิดระยะยาว ไม่ต้องการมีบุตรในช่วงเวลาหลายปี

สรุป ยาคุมฉุกเฉินความปลอดภัยและวิธีใช้

ยาคุมฉุกเฉินไม่ได้เป็นอันตรายหากใช้ในกรณีฉุกเฉินจริงๆ แต่เนื่องจากประสิทธิภาพที่ต่ำกว่ายาคุมกำเนิดชนิดอื่นๆ แพทย์จึงไม่แนะนำให้ใช้เป็นวิธีหลักในการคุมกำเนิด ควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีการคุมกำเนิดที่เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับคุณ

คำถามที่พบบ่อย ยาคุมฉุกเฉินความปลอดภัยและวิธีใช้